หน้าเเรก ข่าวและกิจกรรม ข่าวประชาสัมพันธ์เอสพีซีจี
ข่าวประชาสัมพันธ์เอสพีซีจี
ข่าวประชาสัมพันธ์เอสพีซีจี
15 August 2025
SPCG ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 93.3 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.40 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลังรับผลบวกจากโครงการ Kagoshima Oura Mega Solar ที่ร่วมลงทุน และมาตรการลดหย่อนภาษีติดตั้งโซลาร์รูฟบ้านอยู่อาศัยในไทย
บมจ.เอสพีซีจี หรือ SPCG เผยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปีนี้ ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวม 189.5 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านหน่วยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ไตรมาส 2/2568 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 388.5 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 93.3 ล้านบาท ลดลง 27และ 33ตามลำดับเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ภาพรวม เดือนแรกของปีนี้มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 922.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 232.8 ล้านบาท เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.4บาทต่อหุ้น ส่วนครึ่งปีหลังรับผลบวกจากโครงการ Kagoshima Oura Mega Solar ที่ร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 20
และมาตรการลดหย่อนภาษีจากการติดตั้งโซลาร์รูฟบ้านอยู่อาศัยในไทยช่วยกระตุ้นดีมานด์

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือน ปี 2568 ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมทั้งสิ้น 189.5 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านหน่วยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 388.5 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 93.3 ล้านบาท ลดลง 27% และ 33% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 534.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139.5 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 922.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 232.8 ล้านบาท

จากการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสม ในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 422,316,000 ล้านบาท (สี่ร้อยยี่สิบสองล้านสามแสนหนึ่งหมื่นหกพันบาทถ้วน) กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 1 กันยายน 2568 และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลวันที่ 12 กันยายน 2568 ตอกย้ำความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจและฐานะทางการเงินของบริษัทฯ

ขณะที่การดำเนินงานครึ่งปีหลังจะได้รับผลดีต่อเนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Kagoshima Oura Mega Solar ในเมืองคาโนยะ จังหวัดคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ที่เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (CODตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 ซึ่ง SPCG ร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 และมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในบ้านอยู่อาศัยสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อสนับสนุนประชาชนอนุรักษ์พลังงานและเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟที่เพิ่มขึ้น

OTHER ข่าวประชาสัมพันธ์เอสพีซีจี
Call 02.011.8111
Copyright © 2019 SPCG Public Company Limited. All rights reserved.